ถึงเวลาหุ้น AUTO เทิร์นอะราวนด์ ชู AH-SAT เด่น

21 พฤษภาคม 2564

โบรกเกอร์ประเมินถึงเวลาหุ้นชิ้นส่วนยานยนต์ปีนี้เทิร์นอะราวนด์ ปี 64-65 คาดกำไรโต 125% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน รับความต้องการรถยนต์ทั่วโลกฟื้น ส่วนแนวโน้มทั้งปีคาดยอดผลิตรถยนต์เติบโต 19% แต่ยังต่ำกว่าก่อนโควิด-19 แนะนำซื้อ AH-SAT-STANLY

หยวนต้าคาดกำไรกลุ่มเทิร์นอะราวรด์ ปี 64-65 ให้น้ำหนักมากกว่าตลาด

บทวิจัย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์รายงานกำไรไตรมาส 1/64 เติบโตโดดเด่น 33% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งออกมาดีกว่าที่คาดจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมผลิตรถ โดยมองแนวโน้มไตรมาส 2/64 คาดยังเติบโตจากฐานที่ต่ำปีก่อนที่มีการหยุดการผลิตไป 1 เดือน

ขณะที่ด้านปัญหาขาดแคลนชิปและ Supply chain ในอุตสาหกรรมกระทบระยะสั้น อีกทั้งค่ายรถในประเทศไทยแทนที่จะลดเป้าแต่กลับเพิ่มเป้าหมาย จึงคาดปี 64-65 เข้าช่วง turnaround กำไรเติบโตเด่น 125% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และ 24% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนตามลำดับ

ให้น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด” ซึ่งมองว่าผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาดว่ากำไรจะกลับมาเติบโตโดดเด่นในปี 64-65 จากฐานที่ต่ำ ยอดผลิตรถปีนี้ฟื้นตัวก้าวกระโดด มองว่าหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์มีความน่าสนใจ เลือก AH เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มเนื่องจากคาดกำไรจะฟื้นตัวโดดเด่นในปี 64 ขณะที่ Valuation ถูกสุดในกลุ่ม

กิมเอ็งทองแนวโน้มยอดผลิตรถปีนี้โต 19%

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินกลุ่มยานยนต์ โดยคงน้ำหนักลงทุนเท่าตลาด (NEUTRAL) เนื่องจากมองว่าผลประกอบการช่วงไตรมาส 1/64 ที่ผ่านมาหุ้น AH, SAT, STANLY เติบโตโดดเด่นอย่างมาก สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ หรือขึ้นมาบริเวณจุดสูงสุดในอดีต จากอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว และการปรับปรุงประสิทธิภาพลดต้นทุน ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก

อย่างไรก็ดี แนวโน้มไตรมาส 2/64 ปกติจะเป็นช่วงโลว์ซีซันมีวันหยุดหลายวัน คาดผลประกอบการจะชะลอตัวลง ส่วนแนวโน้มปี 64 จะมียอดผลิตรถยนต์ 1.7 ล้านคัน เติบโต 19% แต่ยังต่ำกว่าระดับปกติก่อนโควิด-19 ประมาณ 2 ล้านคัน ด้านตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้คาดจะมียอดขายรวม 880,000 คัน เติบโต 11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

หุ้นที่แนะนำซื้อในกลุ่ม คือ STANLY ราคาเป้าหมาย 212 บาท SAT ราคาเป้าหมาย 24 บาท และ AH ราคาเป้าหมาย 28 บาท แต่รอจังหวะช่วงอ่อนตัวหลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาแรง

KTBST ให้น้ำหนักการลงทุน “Neutral” เชียร์ SAT เป็น Top Pick

บล.เคทีบีเอสที เปิดเผยว่า เดือน เม.ย. ภาพรวมค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่หยุดการผลิตตามปัจจัยฤดูกาลที่มีวันหยุดค่อนข้างมาก ประกอบกับยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลงจากการระบาดโควิด-19 ทำให้ประชาชนงดการเดินทาง และมีความไม่มั่นใจต่อรายได้ในอนาคต ทำให้ชะลอการซื้อรถยนต์ออกไป แต่มองว่าภาพรวมการผลิตรถยนต์เดือน เม.ย. ที่ลดลงจะเป็นจุดตํ่าสุดของปีนี้ โดยโบรกฯ ประเมินยอดผลิตรถยนต์ทั้งปี 64 ที่ 1.6 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 12% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้ ยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ค.-มิ.ย.64 จะทยอยฟื้นตัวขึ้น โดยยังมีผลกระทบจากบางค่ายรถยนต์ที่ลดกำลังการผลิตจากปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และจะกลับมาปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3/64 ถึงไตรมาส 4/64 จากการกลับมาเร่งผลิตเพื่อชดเชยช่วงไตรมาส 2/64 ที่ชะลอตัว โดยยังมีปัจจัยหนุนจากความต้องการรถยนต์ทั่วโลกที่ฟื้นตัว ทำให้ยอดส่งออกรถยนต์ยังคงเติบโตได้โดดเด่น ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศจะมีทิศทางที่ดีขึ้น จากการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นช่วยควบคุมการแพร่ระบาดได้ และทำให้กำลังซื้อกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น

ให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มยานยนต์เป็น “Neutral” โดยมองหุ้น top pick ได้แก่ SAT แนะซื้อเป้า 26.00 บาท อิง 2021E PER ที่ 11 เท่า (5-yr average PER) จากกำไรปี 64 ที่เติบโตโดดเด่นเพิ่มขึ้น 169% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แนวโน้มผลการดำเนินงานจะเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจาก SAT มีการรับรู้รายได้จากคำสั่งซื้อใหม่เพิ่ม และการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ส่วนใหญ่ของ SAT จะผลิตให้รถกระบะ ซึ่งได้รับผลกระทบน้อยจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งธุรกิจชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตรยังกลับมาฟื้นตัวแข็งแกร่ง นอกจากนั้น ด้าน valuation ยังน่าสนใจเทรดปี 64 PER ต่ำเพียง 8.9 เท่า คิดเป็น -0.75SD below 5-yr average PER

ที่มา mgronline